SEO คืออะไร ? และจะทำ SEO ได้อย่างไร

วันนี้ผมจะมาเขียนเรื่อง SEO จากที่ได้ไปเรียนมาในคลาสของ ODDS ซึ่งผู้สอนก็คือคุณเมย์จากเพจ SEO โบ๊ะบ๊ะ นั่นเอง โดยจะมีเนื้อหาดังนี้

Table of Content

  1. SEO คืออะไร
  2. ช่องทางการเข้ามาใช้งานของ User
  3. Content แบบ EEAT (Expertis, Experiences, Authority, Trust)
  4. เว็บแบบไหนควรทำ Content แบบไหน
    1. On-Page SEO
    2. Off-Page SEO
    3. Technical SEO
  5. Content is King

SEO คืออะไร

SEO หรือ Search Engine Optimization คือกระบวนการทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฎอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google หรือ Bing สิ่งนี้สำคัญเนื่องจากการที่เว็บไซต์ของคุณปรากฎอยู่ในตำแหน่งที่สูงของผลการค้นหาจะทำให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่ผู้คนจะคลิกเข้าไปดูเว็บไซต์ของคุณ

ช่องทางการเข้ามาใช้งานของ User

เมื่อเราพูดถึงการเข้ามาใช้งานของผู้ใช้งาน นั้นเราสามารถมีหลายช่องทางที่สามารถนำมาใช้ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับความต้องการและสิ่งที่ผู้จัดการเว็บไซต์ต้องการที่ผู้ใช้งานจะเข้าถึง

หากเว็บไซต์ของคุณต้องการให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย สามารถใช้ช่องทางการเข้าถึงผ่านหน้าหลักของเว็บไซต์ โดยใส่ลิงก์หรือปุ่มที่ชัดเจนเพื่อนำผู้ใช้งานไปสู่ส่วนของเนื้อหาที่ต้องการเผยแพร่

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้งานอีกหลายช่องทาง เช่น เมนูหลัก ลิงก์อื่นๆ ในหน้าเว็บไซต์ หรือแม้แต่การปรับปรุงและอัพเดทสื่อสังเคราะห์ทางสังคม เพื่อสร้างความติดตามและเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลสำหรับผู้ใช้งาน

และอย่างสำคัญ อย่าลืมทำให้ข้อมูลหรือเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพและเข้าถึงได้ง่าย โดยใช้การจัดลำดับคำสำคัญที่ถูกต้อง ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ และรักษาความให้เกียวข้องในหัวข้อที่นำเสนอ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจและนำไปสู่ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ

Content แบบ EEAT (Expertis, Experiences, Authority, Trust)

การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในสภาพแวดล้อมออนไลน์ในปัจจุบัน เพื่อจับความสนใจของผู้ชมและสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องใช้หลักการของ EEAT – Expertise, Experience, Authority, and Trust.

Expertise: การนำเสนอความรู้และความเชี่ยวชาญในสาขาที่คุณเชี่ยวชาญนั้นสำคัญในการสร้างความไว้วางใจกับผู้อ่านของคุณ การแบ่งปันข้อมูลที่มีคุณค่า, คำแนะนำที่สามารถดำเนินการได้, และการแสดงความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องที่เรากำลังพูดถึงจะทำให้คุณตัวเองเป็นตัวแทนที่มีอำนาจ ซึ่งทำให้คุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเป้าหมายของคุณ.

Experience: การเน้นประสบการณ์ส่วนบุคคลสามารถเพิ่มผลกระทบที่ดีต่อเนื้อหาของคุณได้ ด้วยการรวมเรื่องราวและตัวอย่างจากชีวิตจริง คุณสร้างความสัมพันธ์กับผู้อ่านของคุณ การแบ่งปันเรื่องราวที่เกี่ยวข้องไม่เพียงแต่ช่วยให้ข้อมูล แต่ยังช่วยเป็นการเกี่ยวข้องและแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมของคุณ ทำให้สร้างลูกค้าที่ภักดีและสร้างตัวคุณเองให้เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ.

Authority:การสร้างตัวเองให้เป็นคนมีอำนาจในอุตสาหกรรมของคุณนั้นมีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการแสดงความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง, การเชื่อมโยง, หรือการแบ่งปันเนื้อหาที่ได้รับการวิจัยและตรวจสอบอย่างดีเป็นประจำ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยอย่างต่อเนื่องทำให้คุณสามารถตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ในสาขาของคุณ ทำให้ชื่อเสียงและอำนาจของคุณเพิ่มขึ้น.

Trust: การสร้างความไว้วางใจเป็นหลักสูตรของการสร้างเนื้อหาที่ประสบความสำเร็จ คุณสามารถสร้างความไว้วางใจได้โดยการเป็นโปร่งใส, รักษาความสอดคล้องในการสื่อสารของคุณ, และการส่งมอบสิ่งที่คุณสัญญา การมีส่วนร่วมกับผู้อ่านของคุณโดยการตอบความคิดเห็นและคำติชม ทำให้เห็นว่าคุณเห็นคุณค่าในความคิดเห็นของพวกเขา การเพาะปลูกความไว้วางใจเป็นงานระยะยาวแต่เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างกลุ่มผู้ชมที่ภักดีและมีการเข้ามามีส่วนร่วม..

เว็บแบบไหนควรทำ Content แบบไหน

พิจารณาถึงความสำคัญของเนื้อหาเว็บไซต์ที่มีให้แก่ผู้ใช้ เนื้อหาที่มีคุณภาพสามารถสร้างความน่าสนใจและเพิ่มความหลากหลายให้กับเว็บไซต์ของคุณได้ การสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าต่อผู้อ่านเป็นสิ่งสำคัญ เนื้อหาที่มีคุณภาพสามารถเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์หรือบริษัทของคุณได้อีกด้วย

การสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สามารถครอบคลุมหลากหลายแนวทาง เช่น

  • การเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เนื้อหาที่อภิปรายที่ก้าวไกลกว่าภาพรวมของผลิตภัณฑ์หรือบริการอาจจะช่วยเพิ่มความเข้าใจและความน่าสนใจให้กับผู้อ่าน
  • การแบ่งปันความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น รีวิวสินค้า แนวโน้มใหม่ในตลาด คำแนะนำในการใช้งาน หรือเทคนิคเกี่ยวกับการใช้สินค้าหรือบริการของคุณ
  • เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานและปัญหาที่พวกเขาอาจพบเจอ เช่น บทความในการแก้ไขปัญหา การใช้งานเบื้องต้น คำแนะนำในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ หรือเทคนิคเพื่อความปลอดภัย

หากคุณต้องการให้เนื้อหาเว็บไซต์ของคุณเป็นที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ ควรทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ หาข้อมูลเพิ่มเติมและผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจในผู้ใช้งานของคุณ

การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของเว็บไซต์ของคุณ ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บบล็อก คุณควรสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และสร้างแรงจูงใจให้ผู้อ่านต้องการอ่านต่อ

เนื้อหาที่มีคุณภาพและที่ถูกคนค้นหาอยู่แล้วนั้นสำคัญมาก คุณควรตรวจสอบว่าคีย์เวิร์ดที่คุณใช้ในเนื้อหาของคุณมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ใช้งานของคุณอยากทราบ

On-Page SEO

On-Page SEO หมายถึงเทคนิคการปรับแต่งที่ดำเนินการโดยตรงบนหน้าเว็บไซต์ของคุณเพื่อปรับปรุงการมองเห็นในผลการค้นหาจากเครื่องมือค้นหา ซึ่งรวมถึงการปรับแต่งส่วนต่างๆ รวมถึง:

  1. Keyword Optimization: การทำงานวิจัยคำหลักและวางคำหลักที่เกี่ยวข้องอย่างมีกลยุทธ์ในชื่อหน้า, หัวข้อ, เนื้อหา, meta tags และ URL ของคุณ.
  2. Content Quality: การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง, ไม่ซ้ำกัน, และมีค่าที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้และให้การแก้ไขคำถามของพวกเขา.
  3. Meta Tags: การปรับแต่ง meta title tags และ meta descriptions เพื่อให้มีความน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในหน้านั้น.
  4. URL Structure: ทำให้แน่ใจว่า URL ของคุณกระชับ, อธิบายถูกต้อง, และรวมคำหลักที่ต้องการ.
  5. Internal Linking: เชื่อมต่อหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์ของคุณโดยใช้ข้อความคำอธิบายที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงการนำทางและการเข้าถึงได้.

Off-Page SEO

เน้นที่การปรับปรุงการมองเห็นและชื่อเสียงของเว็บไซต์ของคุณนอกเหนือจากเว็บไซต์ของคุณ เรื่องราวนี้รวมถึงกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มอำนาจและสร้างความเชื่อถือในเครื่องมือค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ เทคนิค SEO ภายนอกสำคัญ ได้แก่

  1. Link Building: รับ backlinks ที่มีคุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่มีอำนาจเพื่อปรับปรุงอำนาจและการมองเห็นของเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา
  2. Social Media Marketing: โปรโมตเนื้อหาของคุณบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมเพื่อเพิ่มการตระหนักรู้แบรนด์และดึงดูดการจราจร.
  3. Online Reputation Management: การตรวจสอบและจัดการรีวิวออนไลน์, ความคิดเห็น, และการสนทนาเพื่อรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดี.

Technical SEO

Technical SEO มีการปรับปรุงฝั่งเทคนิคของเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา โดยเน้นที่การปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์, ประสบการณ์ผู้ใช้, และการเข้าถึงได้ ส่วนที่สำคัญของ SEO ทางเทคนิค:

  1. Website Speed Optimization: การปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าโดยการบีบอัดรูปภาพ, การย่อ CSS และไฟล์ JavaScript, และการใช้เทคนิคการจัดเก็บแคช.
  2. Mobile-Friendliness: ให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถตอบสนองได้และให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นในอุปกรณ์ต่างๆ.
  3. XML Sitemap Creation: สร้างแผนที่ไซต์ XML เพื่อช่วยเครื่องมือค้นหาค้นหาและทำดัชนีหน้าเว็บไซต์ของคุณ.
  4. Robots.txt Optimization: การตั้งค่าไฟล์ robots.txt เพื่อควบคุมการเข้าถึงโครงสร้างของเครื่องมือค้นหาถึงหน้าเว็บไซต์ของคุณ.
  5. Schema Markup:การใช้งาน markup ข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อให้เครื่องมือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ.

Content is King

หากมองเป็นมุมมองของการตลาดดิจิตอล, “Content is King” นับเป็นคำคมที่ถูกใช้มากที่สุดในวงการ. แต่ทำไมเนื้อหาถึงถูกพิจารณาเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการจัดการเว็บไซต์และการสื่อสารออนไลน์? เราจะมาทำความเข้าใจและอธิบายพร้อมตัวอย่างเกี่ยวกับการสร้างเนื้อหาด้วยการเน้นว่า “Content is King”.

ความหมายที่แท้จริงของ “Content is King” หมายถึงการให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีคุณภาพและเพิ่มค่าสำหรับผู้ใช้หรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ. ด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง และความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้อ่าน, เว็บไซต์ของคุณจะมีโอกาสที่จะปรากฏอยู่ที่สูงของผลการค้นหาอย่าง Google อย่างมาก.

เราจะทำความเข้าใจดีขึ้นด้วยตัวอย่าง: ถ้าเรามีเว็บไซต์ที่ขายสินค้าออนไลน์, เราต้องการให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเข้าถึงข้อมูลที่เขาต้องการในทันทีและในรูปแบบที่เขาต้องการ. ดังนั้น, ข้อมูลที่ควรจะมีในสินค้าออนไลน์ที่ดีคือ รายละเอียดของสินค้า, ราคา, วิธีการจัดส่ง, รีวิวจากลูกค้าที่ซื้อสินค้านั้นมาแล้ว และอื่น ๆ. ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผู้อ่านต้องการรู้, และถ้าเราสามารถให้ข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเข้าใจง่ายและครอบคลุม, เราก็จะเป็น ‘กษัตริย์’ ในด้านเนื้อหา.

“Content is King” ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การเขียนเนื้อหาที่มากมายหรือเนื้อหาที่ซับซ้อน. เนื้อหาที่ดีควรมีความชัดเจน, สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ, และควรสอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของผู้อ่าน.

หากเราสามารถทำตามที่กล่าวมา, เราจะสร้างความภักดีที่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมที่มาหาข้อมูลที่เรามีเนื้อหา, จึงสามารถสร้างความไว้วางใจ, เพิ่มการตอบรับ, และทำให้เราปรากฏในผลการค้นหาที่สูงขึ้น. ดังนั้น, ไม่ว่าคุณจะทำการตลาดดิจิตอล, SEO, หรือการสื่อสารออนไลน์ใด ๆ, ต้องจำเป็นต้องระลึกว่า “Content is King”.

เขียนใน SEO

ใส่ความเห็น